บทที่ 1 ประโยชน์และการใช้งาน MACD
Moving Average Convergence/Divergence (MACD) คือ Indicator ที่พัฒนามาจาก Moving Average ซึ่งถูกสร้างและพัฒนาโดย Mr.Gerald Appel ในปี ค.ศ.1979 MACD เป็น Indicator ที่มีแนวคิดมาจากการวาด Moving Average ขึ้นพร้อมกัน 2 เส้น แล้วนำมาวิเคราะห์ลักษณะที่เกิดขึ้นระหว่าง Moving Average ทั้ง 2 เส้น MACD เป็น Indicator ที่สามารถให้ข้อมูลได้ 2 มุมมองพร้อมกัน ได้แก่ ทิศทางแนวโน้มของราคาหุ้น (Trend) และ แรงส่งของราคาหุ้น (Momentum) พร้อมทั้งยังบอกจุดสัญญานซื้อและขายได้อีกด้วย
โดย MACD นั้น จะเริ่มจากค่าเฉลี่ย 2 ค่า ซึ่งเป็นค่าแบบ Exponential Moving Average (EMA) โดยการนำค่าเฉลี่ย 26 วัน "ดึงออก" จากค่าเฉลี่ย 12 วัน และนำความสัมพันธ์ของเลข 2 ค่าดังกล่าวนั้น แสดงออกมาในรูป Histogram หลังจากนั้น จะมีการใช้ค่าเฉลี่ย EMA อีกหนึ่งค่า โดยค่าที่ Gerald Appeal ตั้งไว้คือ 9 วัน ซึ่งเส้นค่าเฉลี่ยตัวสุดท้ายนี้ จะใช้เป็นเส้นสัญญาณ โดยเส้นสัญญาณนี้จะแสดงบน Histogram อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกถึงจังหวะในการเข้าเทรดทั้งฝั่งซื้อหรือขาย จึงเป็น Indicator ที่แม้ว่าจะถูกพัฒนาและใช้งานมานานแล้ว แต่ก็ยังเป็นที่ยอมรับและได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบันนี้
ตัวบ่งชี้ MACD มีองค์ประกอบ 3 ส่วน คือ
1.ตัวเลข MACD 3 ค่า: แตกต่างกันไปตามระยะเวลาของเส้น Exponential Moving Average (EMA) ที่สั้นกว่าและนานกว่า
2.ชุดตัวเลขค่าเฉลี่ย/สัญญาณ EMA ของค่า MACD
3.ลำดับเลข Divergence มาจากการหักลบค่า MACD ออกจากค่าเฉลี่ย
การใช้งาน MACD
คือ ใช้บอกแนวโน้มของราคาที่เกิดขึ้น บอกจุดที่ควรซื้อหรือขาย ทั้งระยะกลางและระยะสั้น บอก Momentum ของราคาหุ้นหรือค่าเงิน (ไม่สามารถบอกภาวะซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไปได้)
- การใช้ Indicator MACD เพื่อบ่งบอกแนวโน้ม ด้วยการดูจากเส้น MACD Line
ให้สังเกตจากช่วงกลางระหว่างด้านบนกับด้านล่าง หรือด้านบวกกับด้านลบ โดยบริเวณที่อยู่ด้านบนเรียกว่า Bullish zone ส่วนบริเวณด้านล่างเรียกว่า Bearish Zone ระหว่างอาณาเขต Bullish zone (ด้านบน) และอาณาเขต Bearish Zone (ด้านล่าง) จะมีช่วงกลางที่เป็นที่ขั้นมีลักษณะคล้ายๆเป็นเส้นแดน ซึ่งตรงนี้เรียกว่า Zero Line ในการบ่งบอกแนวโน้มก็คือ ถ้าเส้น MACD Line อยู่ในบริเวณที่ต่ำกว่า Zero
รายงาน