บทที่ 3 8 วิธีเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่
1. พิจารณาเรื่องความน่าเชื่อถึอ ( Be Reliable )
เป็นเรื่องแรกๆ ที่ควรนำมาพิจารณาเลือก Best Broker Forex เพราะการที่เราจะนำเงินเข้าไปเทรดกับโบรกเกอร์นั้น เรื่องความน่าเชื่อถือต้องมาเป็นอันดับแรก ถ้าโบรกเกอร์นั้นมีใบอนุญาตที่จดทะเบียนกับหน่วยงานที่มีความเข้มงวดในการควบคุมและตรวจสอบ ที่อยู่ในระดับแนวหน้าที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ก็ยิ่งสร้างความน่าเชื่อถือให้กับโบรกเกอร์นั้นมากขึ้นด้วยเช่นกัน
2. พิจารณาเรื่องค่าสเปรด (Spread)
ค่าสเปรด (Spread) ที่ต่ำๆ นั้น ช่วยให้เราได้เปรียบมากขึ้นในเวลาเทรด ในทางกลับกันหากเราเลื่อกใช้โบรกเกอร์ที่มีค่าสเปรด (Spread) สูง ก็มีโอกาสทำให้เราขาดทุนได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน สรุปก็คือยิ่งสเปรด (Spread) ต่ำเท่าไหร่ยิ่งดี ปัจจุบันหลายโบรกเกอร์มีประเภทบัญชีที่สเปรดต่ำมากๆ แต่ก็จะมีคิดค่าคอมมิชชั่นเพิ่มเข้ามา ดังนั้นควรลองคำนวณให้ดีๆ ก่อนเลือกใช้ เมื่อรวมสเปรดและค่าคอมมิชชั่นเข้าไปแล้ว ยังถูกอยู่หรือว่าแพงไป
3. พิจารณาเรื่องค่าคอมมิชชั่น (Commision)
ค่าคอมมิชชั่นในที่นี่หมายถึง ค่าคอมมิชชั่นในการเทรด ปัจจุบัน บัญชี Standard แต่ละโบรกเกอร์จะไม่คิดค่าคอมมิชชั่น แต่บางโบรกเกอร์คิดค่าคอมมิชชั่น และส่วนมากบัญชีที่ค่าสเปรดต่ำมากๆ หรือมีค่าเท่ากับ 0 มักจะคิดค่าคอมมิชชั่นในการเทรดแต่ละออเดอร์ ซึ่งหากค่าคอมมิชชั่นแพงเกินไปก็ทำให้เราเสียเปรียบในการเทรด ดังนั้นในบัญชีที่ค่าสเปรดต่ำมากๆ ยิ่งค่าค่าคอมมิชชั่นถูกเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
4. พิจารณาเรื่องค่าธรรมเนียม (Fee)
Best Broker Forex ที่ดีนั้นจะต้องมีการเก็บค่าธรรมเนียมที่ต่ำมากๆ หรือไม่เก็บเลย โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมการฝากและการถอนเงินเป็นต้น ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องหนึ่งที่ทำให้เราได้รับเงินกำไรลดลงด้วย ปัจจุบันหลายๆ โปรกเกอร์ ที่เข้ามาทำตลาดในไทย มักจะไม่คิดค่าธรรมเนียมฝากถอน เมื่อฝากถอนผ่าน Internet Banking ธนาคารไทย
5. พิจารณาเรื่องช่องทางฝากถอน (Deposit withdrawal channel)
Best Broker Forex ที่ดีสำหรับคนไทยนี้น ควรมีช่องทางฝากถอนที่สะดวกและรวดเร็ว โดยเฉพาะการฝากถอนผ่านธนาคารไทย และ Internet Banking เป็นช่องทางที่คนไทยใช้กันมากที่สุด หลายๆ โบรกเกอร์ที่เข้ามาทำตลาดในไทย จะมีช่องทางฝากถอนผ่านธนาคารไทยเกือบทุกโบรกเกอร์ หากโบรกเกอร์รายไหนไม่มีช่องทางที่สะดวกสำหรับคนไทย มักจะไม่ค่อยได้รับความนิยมจากคนไทยสักเท่าไหร่
6. พิจารณาเรื่องแพลตฟอร์มเทรด (Trading platform)
แพลตฟอร์มเทรดที่มีคุณภาพและสามารถใช้ร่วมกับอัปกรณ์อื่นๆ เป็นส่วนหนึ่งของ Best Broker Forex ที่ดีต้องมี ยิ่งมีช่องทางให้เลือกหลากหลายและเสถียรมากเท่าไหร่ ยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรของเราได้มากขึ้นเท่านั้น หากแพลตฟอร์มที่ไม่เสถียรมาก อาการค้างบ่อยหลุดบ่อย ส่งคำสั่งซื้อขายช้า ก็โอกาสทำให้เราขาดทุนได้เช่นกัน หากเจอแพลตฟอร์มของโบรกเกอร์ไหนมีลักษณะดังกล่าว แนะนำเปลี่ยนโบรกเกอร์อื่น
7. พิจารณาความเป็นมืออาชีพด้านการให้บริการและแก้ปัญหา (Professional)
การให้คำแนะนำและการแก้ปัญหารที่ดีให้แก่ลูกค้า เป็นสิ่งที่ Best Broker Forex พึงมี โดยเฉพาะการแก้ปัญหาให้กับลูกค้าบ่งบอกความเป็นมืออาชีพของโบรกเกอร์นี้นๆ ได้ เช่นปัญหาถอนเงินแล้วเงินไม่เข้า เป็นต้น บางโบรกเกอร์มีผู้ดูแลบัญชีเป็นคนไทย และคอยช่วยให้คำแนะนำกับลูกค้าเป็นอย่างดี เช่น แนะนำเครื่องมือที่เป็นประโยชน์แก่ลูกค้าในการทำกำไร เป็นต้น
8. พิจารณาโปรโมชั่นจูงใจ (Promotion)
บางโบรกเกอร์มีโปรโมชั่น บางโบรกเกอร์ไม่มีโปรโมชั่น ซึ่งโปรโมชั่นที่โบรกเกอร์มีให้นั้น เราควรพิจารณาดูว่าโปรโมชั่นนั้นๆ เป็นประโยชน์และโดนใจเรามากน้อยเพียงใด