บทที่ 1 การเทรดมาร์จิ้นในตลาดฟอเร็กซ์ทำงานอย่างไร
เทรดมาร์จิ้น (Margin) คืออะไร? เงินทุนไม่เยอะก็เทรดได้ด้วยมาร์จิ้น
มาร์จิ้น (Margin) ในแง่ของการเทรด หมายถึง การลงทุนซื้อขายตราสารการเงินโดยมีโบรกเกอร์หรือผู้บริการทางการเงินเป็นผู้ให้สินเชื่อเงินลงทุนกับนักเทรดเจ้าของบัญชี อธิบายง่ายๆ คือ เทรดเดอร์สามารถลงทุนซื้อตราสารในปริมาณมากได้ แม้จะไม่มีเงินทุนจำนวนดังกล่าวอยู่จริงๆ ก็ตาม ทำให้เทรดเดอร์สามารถเปิดออเดอร์เทรดจำนวนมากได้ตามที่ต้องการนั่นเอง สรุปง่ายๆ ก็คือการเทรดมาร์จิ้นช่วยให้เทรดเดอร์ทำกำไรจากการเทรดที่มากขึ้นได้ โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนน้อย และต้องอาศัยการทำกำไรจากการเปิดหลายออเดอร์ แทนการเน้นทำกำไรมากๆ จากออเดอร์เทรดแค่ออเดอร์เดียว
โดยส่วนมาก มาร์จิ้นจะใช้สำหรับการเทรด Forex หรือลงทุนในตลาดค่าเงิน แต่ก็มีนัก
เทรดมืออาชีพจำนวนไม่น้อยที่ใช้มาร์จิ้นเพื่อยืมเงินจากโบรกเกอร์มาใช้ลงทุนเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity), หุ้น (Stock) และตราสารการเงินที่ได้รับความนิยมมากๆ ในปัจจุบันอย่างสกุลเงินดิจิตอล หรือ Cryptocurrency ที่ทุกท่านน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี
การอธิบายเรื่องบัญชีมาร์จิ้นอย่างละเอียด
มาร์จิ้น (Margin) คือ เงินหลักประกัน ที่ถูกหักไว้เมื่อเปิด Order (สั่งซื้อขาย) และจะคืนให้เมื่อปิด Order ในส่วนของ Margin จะเกี่ยวข้องกันกับ ค่า Leverage ที่ใช้ เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ขอยกตัวอย่างดังนี้
ตัวอย่าง Leverage 1:1 ถ้าต้องการเปิด Order 1 Lot เราต้องใช้เงิน 100,000 USD เป็นเงินหลักประกัน (Margin) Margin = 100,000 USD
แต่ถ้าใช้ Leverage ที 1:100 จะทำให้ Margin จะลดลง 100 เท่า จากที่ต้องวางเงินหลักประกัน 100,000 USD ก็จะเหลือเพียง 1,000 USD เท่านั้น Margin = 1,000 USD
สูตรการคำนวณ Margin: Margin = ราคาในขณะที่เปิด x Lot x Contract size / Leverage
ความสามารถในการตั้งบัญชีมาร์จิ้นจะถูกนำเสนอโดยโบรกเกอร์ส่วนใหญ่และสามารถให้อำนาจในการซื้อจำนวนมากโดยไม่มีการลงทุนด้วยเงินสดใดๆ ในส่วนของผู้ค้า เพื่อทำความเข้าใจว่าบัญชีมาร์จิ้นมีประโยชน์อย่างไรให้พิจารณานักลงทุนที่ซื้อหุ้นในราคาหุ้นละ $50 (USD) ด้วยเหตุนี้ราคาตลาดของหุ้นจึงสูงถึง $75 หากเขาจ่ายเงินสด ผลตอบแทนจากการลงทุนของเขาคือ 50% ซึ่งเป็นอัตราที่น่านับถือมากของการกลับมา อย่างไรก็ตามหากเขาจ่ายเงิน $25 เป็นเงินสดและ $25 ในเงินที่ยืมมาจากมาร์จิ้น ผลตอบแทนของเขาก็คือ 100% เขายังคงต้องจ่ายคืนเงินที่เขายืมมาแต่จ่ายโดยการกระจายการกู้ยืมเงินของเขาไปในซื้อหลายครั้ง เขาจะเพิ่มผลกำไรของเขาตราบเท่าที่ราคาของหุ้นของเขาเพิ่มขึ้น
ข้อดี-ข้อเสียของการเทรดมาร์จิ้น
การเทรดมาร์จิ้นไม่ใช่เรื่องยาก แถมยังเหมาะทั้งสำหรับนักเทรดมือใหม่และนักเทรดมืออาชีพอีกด้วย ทำให้เทรดเดอร์มีโอกาสในการบริหารพอร์ตที่หลากหลาย และสร้างกำไรตอบแทนที่มากขึ้นได้จากการใช้มาร์จิ้นเทรด
อย่างไรก็ดี ถึงแม้การเทรดด้วยมาร์จิ้นจะมีประโยชน์ไม่น้อย แต่มันก็มีข้อเสียบางอย่างที่นักเทรดจะต้องระวัง
ข้อดี:
สร้างรายได้ที่มากขึ้น – ทำรายได้มากขึ้นจากการลงทุนที่มากขึ้นได้
เปิดออเดอร์เทรดมากยิ่งกว่าเดิม – เพิ่มโอกาสในการเปิดออเดอร์ได้หลายออเดอร์ แม้จะมีเงินลงทุนไม่เพียงพอก็ตาม
เพิ่มความยืดหยุ่นในการเทรด – หลังจากเปิดบัญชีมาร์จิ้นเรียบร้อยแล้ว ท่านสามารถเปิดออเดอร์เทรดได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยไม่ต้องคอยมานั่งฝากเงินเข้าบัญชีเพิ่มให้เสียเวลา
ข้อเสีย:
ขาดทุนได้มากขึ้นเช่นกัน – ถึงแม้มาร์จิ้นจะช่วยให้ท่านเทรดกำไรได้มากขึ้นก็จริง แต่ก็มีโอกาสเทรดขาดทุนได้มากขึ้นเช่นกัน และอย่าลืมว่าเงินทุนที่มีอยู่จริงในตอนแรกนั้นอาจน้อยกว่าจำนวนเงินขาดทุน โดยถึงแม้ราคาจะร่วงไม่มาก แต่ก็อาจส่งผลรุนแรงต่อการ
เทรดได้
วิธีที่ดีที่สุดในการจัดการความเสี่ยง คือ การใช้ กลยุทธ์บริหารความเสี่ยงต่างๆ เช่น การใช้ออเดอร์ Stop limit และการเปลี่ยนไปลงทุนตราสารอื่นเพื่อลดความเสี่ยง
บทสรุปเกี่ยวกับการเทรดมาร์จิ้น
การเทรดมาร์จิ้นเป็นหนึ่งในตัวเลือกการลงทุนที่ดีที่จะช่วยให้นักลงทุนสร้างกำไรที่เติบโตมากขึ้นได้ ทำให้ท่านสามารถบริหารพอร์ตการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเปิดออเดอร์สร้างกำไรได้หลายออเดอร์ แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะใช้วิธีการบริหารความเสี่ยงในการเทรดอยู่เสมอ